8 เหตุผลต้องไปจอร์เจียสักครั้ง

เล่าให้ฟังก่อน? หลายๆคนคงสับสนว่า เอ๊ะ! จอร์เจียอยู่ทวีปไหนกันแน่ เอเชียหรือยุโรป จริงๆแล้ว จอร์เจียเป็นประเทศฝั่งเอเชียค่ะ แต่มีกลิ่นอายของยุโรป ทั้งสภาปัตยกรรม สภาพบ้านเรือน วัฒนธรรม ผู้คน รวมทั้งอากาศ จัดว่าเป็นสไตล์ยุโรปดีๆเนี่ยแหละ โดยเมืองหลวง ของจอร์เจีย มีชื่อว่า Tbilisi อ่านว่า ทบิลิซี่  ส่วนอีกเมืองใหญ่ชื่อว่า Batumi เป็นเมืองท่าที่ค่อนข้างโมเดิร์น 

คนพื้นเมืองจะใช้ภาษาจอร์เจียและรัฐเซียเป็นหลัก ภาษาจอร์เจียเป็นภาษาที่มีเอกลักษณ์และเก่าแก่ที่สุดในโลก มีตัวอักษรที่แตกต่างกับภาษาอื่นๆ และบอกก่อนเลยว่าคนจอร์เจียพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งนัก TT

เดินทางไปจอร์เจียยังไง? 
วิธีการเดินทางไปจอร์เจียต้องบอกก่อนเลยว่า ต้องเปลี่ยนเครื่องอย่างน้อย 1 ที่ เพราะไม่มีเที่ยวบินตรงจากไทยไปจอร์เจียเลย ค่าเครื่องก็จะราคาสูงหน่อยๆ ราคาอยู่ที่ประมาณสองหมื่นกว่าบาท แต่ถ้าไปรับรองได้เลยว่าต้องอยากกลับไปอีกครั้งแน่ๆ 

วันนี้เราจะมาบอก 8 เหตุผลที่ต้องไปจอร์เจียสักครั้ง และจะทำให้แกตกหลุมรักประเทศนี้หนักมากกกกก มาเริ่มกันเลย

จอร์เจีย ทิวทัศน์งดงามดุจดั่งเมืองแห่งเทพนิยาย

ใครว่าจอร์เจียเป็นประเทศเล็กๆ ไม่ได้มีเพียงซากปรักหักพังเก่าแก่ ยอดเขาหรือแม้แต่ที่เล่นสกี แต่ธรรมชาติของประเทศนี้ถือว่าสวยมากที่เดียว 

ธรรมชาติของที่นี่มีความหลากหลาย ซึ่งทางตอนเหนืออย่างเมือง Kazbegi และ Mestia จะมีภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ และรอบๆเมือง Kutaisi คุณก็จะเห็นป่าสีเขียวขจี หุบเขา, หรืออยากแช่น้ำ ก็สามารถไปที่เมือง Borjomi ก็ได้

หรือห้ามพลาดที่จะเดินทางไป ชมทะเลสีดำ ณ เมืองBatumi และ Poti เพื่อนๆจะได้พบกับความมหัศรรย์ของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้ที่เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลือง และกลายเป็นสีส้มในเวลาต่อมา

ไม่ต้องทำวีซ่าก็มาเที่ยวได้

ในปัจจุบันคนไทยสามรถไปเที่ยวจอร์เจียได้เลย โดยไม่ต้องขอวีซ่า และสามารถอยู่ได้นานที่สุดถึง 365 วัน สามารถเที่ยวได้ยาวๆเลย 

สูดอากาศบริสุทธิ์กันเถอะ

ถึงแม้ว่าอากาศในเมืองหลวงอย่างเมือง Tbilisi จะมีอุณภูมิมากกว่า 35 องศาในช่วงหน้าร้อน ซึ่งอากาศก็คล้ายกับอากาศบ้านเรานั่นแหละ แต่ในฤดูหนาว อุณหภูมิถึง 5 องศา มีหิมะให้ได้สัมผัสกัน โดยเฉพาะทางตอนเหนือ เมื่อหิมะปกคลุมภูเขาทั้งหมด บอกเลยว่าฟินสุดๆไปเลยค่ะ

ช่วงฤดูหนาว จะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์
อุณหภูมิจะอยู่ที่ 0 - 6 องศา ในฤดูนี้คนส่วนใหญ่มักจะออกไปเล่นกีฬากลางแจ้ง อย่างเล่นสกีหิมะ

ช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะเริ่มต้นที่เดือนมีนาคม - พฤษภาคม
เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเดินทางไปที่ Tbilisi เพราะอากาศจะไม่ร้อนมาก จะมีฝนตกเป็นบางครั้ง 

หน้าร้อนของที่นี่ก็ไม่น้อยหน้า เริ่มต้นที่เดือนมิถุนายน - สิงหาคม อุณหภูมิอยู่ที่ 20 - 30 องศา อากาศแค่นี้ไม่ใช่ปัญหา เพราะไทยร้อนกว่านี้มาก5555 และฤดูนี้เหมาะมากกับการมาเที่ยวจอร์เจียสุดๆ

และสุดท้าย ฤดูที่สวยที่สุด อย่างฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จะเริ่มต้นที่เดือนกันยายน - พฤศจิกายน ที่นี่จะเต็มไปด้วยใบไม้หลายสี อากาศจะหนาวขึ้นและฝนจะหยุดในช่วงเดือนตุลาคม

ค่าครองชีพที่จอร์เจียก็ So Cheap!

จอร์เจียใช้สกุลเงินลารี (Lari) อัตราการแลกเปลี่ยนระหว่างเงินไทยกับลารี 1 ลารี เท่ากับ 10.20 บาทเอง 

เดินทางโดยรถไฟใต้ดินใช้เงินแค่ 8 เอง อยู่กรุงเทพไม่ได้เตะราคานี้แน่นอน5555 อาหารต่อมื้อราคาก็ไม่เกิน 150 บาท น้ำบาทขวดละ 15 บาท  ขนาดโรงแรมยังมีราคาเริ่มตันที่ 200 - 2000 บาทเอง เข้าพักโรงแรมสี่ดาวในราคาแค่ 2,000 บาทเอง ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า So cheap!

จอร์เจีย เมืองฮิปเว่อร์ 

ถ้า Williamsburg คือเมืองหลวงของ Hipster ฝั่ง East Coast Tbilisi ก็คือเมืองหลวงของแถบคอเคซัส เคลมแบบนี้เลย ถ้าใครเข้าคาเฟ่นั้นออกคาเฟ่นี้ เราว่าที่นี่เหมาะมาก มีถนนนึงชื่อ Kote Abkhazi St. ในเมือง Tbilisi นะที่คาเฟ่กับบาร์แน่เว่อร์ ที่นี่ไม่ดังเรื่องกาแฟ แต่ถ้าพูดถึงไวน์ เรากล้ารับประกันเลยว่าเด็ดมาก

   ไวท์ รสชาติสุดเลิศ 
   จอร์เจีย แหล่งผลิตไวท์มากกว่า 7,000 ปี เป็นประเทศที่ถูกเสนอให้.         

อาหารจอร์เจีย แปลกแต่อร่อย

อาหารจอร์เจียมีความหลากหลาย  มักจะขึ้นอยู่กับแหล่งธรรมชาติในแต่ละเมือง และส่วนใหญ่จะเป็น Khinkali หรือเกี๊ยวนั่นแหละ ที่ทำมาจากมันฝรั่ง เนื้อ ชีส และเห็ด และมีน้ำซุปที่กลมกล่อม

และ khachapuri ถือว่าเป็น Breakfast ของอาหารจอร์เจียก็ว่าได้ จะมีหน้าตาคล้ายพิซซ่ากึ่งโดนัท ตรงกลางจะอัดแน่นไปด้วยไข่ เนย ชีส ซึ่งมีหน้าแตกต่างกัน ตอนทานก็ต้องคลุกให้เข้ากันก่อนนะ ใครที่ชอบกลิ่นหอมของเนยและชีสเหมือนเราห้ามพลาดเลย

ชาวจอร์เจียนสุดน่ารัก

คนที่นี่ Nice เว่อร์ มาคนเดียวไม่เหงาแน่นอน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกจะไปจอร์เจียก็เพราะคนในประเทศนั่นแหละ เพราะพวกเขาจะตอนรับเราอย่างเป็นมิตร และใจดีสุดๆ