หนีฝุ่น ไปสูดอากาศสุดคลีนที่เกาะแฟโรกันเถอะ

4621 จำนวนผู้เข้าชม  | 

หนีฝุ่น ไปสูดอากาศสุดคลีนที่เกาะแฟโรกันเถอะ

ว่าด้วยกรุงเทพฝุ่น PM 2.5 แรงเหลือเกิน
จนบางครั้งก็อยากหอบกระเป๋าหนีไปสูดอากาศคลีนๆที่ต่างแดนสักครั้ง อย่าง "เกาะแฟโร (Faroe Island)' ธรรมชาติที่เรียกได้ว่าบริสุทธิ์ เหมือนได้เติมอากาศดีๆเต็มปอดอีกครั้ง

หลายๆคนคงมีคำถามอยู่ในใจว่าเกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงไหนกัน? เกาะแฟโรยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ แล้วมาเที่ยวเกาะแฟโรนี้มันดียังไง วันนี้นิวเจนส์มารวบรวมคำตอบไว้ให้หมดแล้ว

เรามั่นใจว่า ถ้าเพื่อนๆอ่านจนจบจะทำให้แกตกหลุมรักธรรมชาติของเกาะแฟโรแห่งนี้หนักมากกก

เกาะแฟโร (Faroe Island) เป็นเกาะเล็กๆที่มีความธรรมชาติสุดเพรียว บ้านเรือนคือน่ารักมาก มี Landscap เหมือนอยู่นอกโลกเลย เป็นอะไรที่ unique จริงๆ สำหรับใครที่ชอบชีวิต Slowlife นั่งจิบกาแฟดื่มด่ำบรรยากาศ คือต้องมาสักครั้งนึง

เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างไอซ์แลนด์กับนอร์เวย์ ส่วนเมืองหลวงของเกาะสุดน่ารักแห่งนี้ชื่อว่า Tórshavn อ่านว่า ตอร์ชาฟน์ เป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่เล็กที่สุดในโลก

คนพื้นเมืองจะใช้ภาษาแฟโรเป็นหลัก ก็คล้ายๆกับภาษาไอซ์แลนด์นั่นแหละ ภาษาที่สองจะเป็นภาษาเดนิช แต่ไม่ต้องห่วงคนที่นี่เค้าพูดอังกฤษได้โปรมาก

การขอวีซ่าไปแฟโรทำที่ไหน?
เราต้องไปทำวีซ่าที่สถานฑูต Denmark โดยต้องบอกเค้าด้วยว่าไป Faroe Islands ด้วย ขั้นตอนและการเตรียมเอกสารเหมือนขอ Schengen visa ปกติ วีซ่าที่ได้จะเป็น Schengen visa ที่มี Note ว่า “Valid for Faroe Islands”

การเดินทางอย่างที่บอกไปตอนแรกเลยว่า เกาะแฟโรตั้งอยู่ระหว่างไอซ์แลนด์กับนอร์เวย์ ดังนั้นเราสามารถบินตรงไปที่ นอร์เวย์หรือเดนมาร์ก แล้วต่อเครื่องลงที่เกาะแฟโรได้ แต่ถ้าใครเปลี่ยนบรรยากาศ อยากชิวๆ อีกทางเลือกคือนั่งเรือเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 34-38 ชั่วโมง โดยมีเรือบริการสัปดาห์ 1-2 วันเท่านั้น

ส่วนเงินที่ใช้ในเกาะแฟโรจะ ใช้เป็นเงินสกุล føroysk króna (DRK) มีแต่แบงค์ไม่มีเหรียญ (เราจะใช้เหรียญของเดนมาร์กแทน เพราะค่าเงินเท่ากัน เราสามารถเลือกใช้เป็นเงิน (dansk krone) DKK ของเดนมาร์กก็ได้ หรือเลือกจ่ายเป็นบัตรเครดิต จ่ายค่ารถโดยสารต่างๆ ค่าโรงแรมที่พัก หรือซื้อของกินต่างๆก็ได้ อัตราแลกเปลี่ยนไทยประมาณ 4.52 บาท

 

6 เหตุผลที่ต้องมาเที่ยวเกาะแฟโร เกาะที่ธรรมชาติคลีนสุดๆสักครั้ง  

1. เกาะแฟโร ธรรมชาติที่หลุดโลก

เกาะแฟโรเป็นเกาะที่มีทิวทัศน์ที่หลุดโลกมากๆ เหมือนหลุดอยู่ในคนละโลกเลย คือถ้านั่งเครื่องบินที่กำลังลดระดับลงผ่านพ้นม่านเมฆมานี่ แบบ ต้องมีร้อง!! แทบหยิบกล้องไม่ทันเลยทีเดียวเพราะมันสวยแปลกตามากจริง ๆ

ใครว่าเกาะแฟโรเป็นแค่เกาะธรรมดาๆ ไม่มีอะไรน่าไปนัก เราขอค้านหนักมาก!!

เพราะสำหรับเราเกาะแห่งนี้คือที่หนึ่งในเกาะที่ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ทั้งภูเขาสีเขียวขจี ทั้งน้องแกะที่เค้าว่ากันว่ามีจำนวน พอๆกับประชากร บ้านที่หลังคาที่ปกคลุมด้วยหญ้า รวมทั้งน้ำตกและสีสันของหมู่บ้านเล็กๆในเกาะแห่งนี้ลงตัวเว่อร์ 

เมื่อเดินทางไปเกาะแฟโร
ห้ามพลาดน้ำตก Mulafossur Waterfall เป็นน้ำตกที่โด่งดังที่สุดในเกาะ ซึ่งเป็นน้ำตกที่ไหลหักมุมกับหน้าผา 90 องศา และยังมีฉากหลังเป็นหุบเขาและทุ่งมอสส์มองดูแล้วช่างงดงามเหมือนภาพวาดเลย

หรือถ้าใครอยากชมนกพัฟฟินที่นี่ก็เหมาะเช่นกัน เปรียบเหมือนสวรรค์ของนกและคนรักนกเลย

เพื่อนๆจะได้เห็นนกพัฟฟินทั่วทั้งเกาะและถ้าอยากเห็นง่ายๆต้องมาช่วงซัมเมอร์ค่ะ

 
 
2. การเดินทางที่แสนสบาย

ใครจะเชื่อว่าเกาะที่อยู่ห่างไกลและมีภูมิประเทศที่ขรุขระจะเดินทางได้ง่าย แต่เชื่อเถอะการเดินทางไปตามถนนบนเกาะง่ายกว่าที่เราคิดไว้เลย ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ค่อนข้างใหม่เอี่ยม อย่างเช่นอุโมงค์ใต้ทะเลที่เชื่อมต่อเกาะและถนนลาดยางตัดผ่านภูเขา ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวไม่ยุ่งยากสักเท่าไหร่

เราแนะนำหากมาเที่ยวที่เกาะแห่งนี้เช่ารถจะดีที่สุด
 

3. บ้านเรือนเสน่ห์อันล้นเหลือ

แปลกใจใช่ไหม? 'ทำไมบ้านเรือนของที่นี่เป็นหลังคาหญ้า'

หลังคาหญ้าถือว่าเป็นสัญลัก ษณ์ของเกาะแฟโรเลย แม้กระทั่งเมืองหลวงก็ยังมี เลยค่ะ เป็นอะไรที่แปลกตาหาชมได้ยา กมากๆ ชาวแฟโรได้ปรับแต่งบ้านเรือนเพื่อปกป้องที่อยู่อาศัยจากฝนตก

เชื่อไหมว่าฝนตกที่เกาะนี้ประมาณ 300 วันต่อปี อาจดูขำๆแต่ไม่ใช่เรื่องตลก สำหรับชาวแฟโรเลย ลองคิดว่าถ้าเราต้องอยู่ในสภาพฝนตกเวลาคงแย่แน่ๆ TT

นอกจากบ้านที่เป็นหลังคาหญ้าแล้ว บ้านเรือนที่นี่เป็นแบบสแกน ทั้งหมด มองดูแล้วสะอาด สบายตามากเลยค่ะ 
 
 

4. ชาวแฟโรสุด Nice

คนที่นี่ Nice เว่อร์ มาคนเดียวคือไม่เหงาแน่นอน เพราะเค้าจะตอนรับเราอย่างเป็นมิตร

ส่วนเรื่องอาชญากรรม ไม่ต้องห่วงเลยเพราะเค้ามีประวัติอาชกรรมที่ต่ำมาก ฉะนั้นไว้ใจที่นี่ได้แน่นอน

-------------------------------------

นอกจากคนจะ Nice แล้ว เจ้าสัตว์บนเกาะก็น่ารักไม่น้อยหน้าใคร ไม่ว่าจะเป็นน้องแกะ ม้า คือเฟรนด์ลี่สุดๆ เราสามารถเข้าไปใกล้ไปได้เลย แต่อย่าทำให้น้องๆตกใจนะ ถ้าน้องๆโกรธระวังจะเจ็บตัวเอา อย่าหาว่าไม่เตือนเด้อ

---------------------------------------

5. อากาศสุดคลีน

ถึงแม้อากาศที่นี่จะเอาแต่ใจ แปรปรวนเก่งเหมือนไอซ์แลนด์ บางครั้งแดดแรงอยู่ดีๆ ฝนก็ตก เมฆครึ้มงี้ แล้วส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีแดดด้วยนะ จะมีเมฆกับฝนสะมากกว่า แต่ต้องยอมรับเลยว่าอากาศพา ฟินเว่อร์

ยิ่งช่วงซัมเมอร์อากาศจะอยู่ที่อุณหภูมิ 14 - 18 องศา เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน - สิงหาคม

**เราแนะนำให้มาช่วงซัมเมอร์เพราะอากาศคือดีมาก เพื่อนๆจะได้เห็นหุบเขาและทุ่งมอสส์หนานุ่มเป็นสีเขียวขจี แถมยังเป็นช่วงที่นกพัฟฟินออกมาวางไข่อีก

แค่นึกก็ฟินสุดๆไปเลยใช่ไหมละคะ?! แต่ต้องรับมือกับราคาที่จะเพิ่มขึ้นช่วงนี้ด้วยนะ

 

ช่วง Autumn เป็นช่วงที่ทุ่งมอสส์มีสีสันมากที่สุด
จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกันยา - กลางเดือนธันวาคม

ถ้ามาในช่วงนี้อาจจะต้องทำใจสักนิด เพราะสถานที่ท่องเที่ยวหลาย ๆแห่งจะปิดในช่วงกลางเดือนกันยา - ปลายเมษา ต้องเช็คข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวเวลาเปิด-ปิด ให้ดีๆก่อนจะเดินทางมาไม่งั้นเสียเที่ยวแน่ๆ

มาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้องเตรียมเสื้อกันฝนสีแสบๆ มาด้วยนะ เพราะฝนจะตกหนักมาก

 

ใครที่อยากล่าแสงเหนือ แต่งตัวแบบจัดเต็ม คอสตูมแน่นๆต้องมาช่วงวินเทอร์

เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนธันวา - กลางเดือนมีนา อากาศจะอยู่ที่ประมาณ -5 ถึง -12องศา หนาวจนควันออกปากกันไปข้างนึงเลย ทุกอย่างจะดูนุ่มไปด้วยหิมะเต็มไปหมด

มาช่วงวินเทอร์ต้องเตรียมผ้าพันคอ เสื้อแขนยาว และหมวกมาให้พร้อม และยิ่งใครไม่ชอบคนเยอะ ต้องมาช่วงวินเทอร์เลย นักท่องเที่ยวจะมีไม่มากนัก และยังเป็นช่วงที่อะไรๆก็ถูกลงด้วย เพราะเป็นช่วง Low season พอดี 
 
 
 
 

----------------------------------------------- 


7. สวรรค์ของช่างภาพ

อย่างที่ได้บอกไปเกาะแฟโรเป็นเกาะที่มีภูมิประเทศที่แปลกตา มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติเพรียวๆ ทำให้ช่างภาพเดินทางมาที่นี่เยอะ

ไม่ต้องถึงกับมือช่างหรอก ขนาดเราที่ไม่ได้มีพื้นฐานด้านการถ่ายรูปยังถ่ายออกมาได้สวยเลย เพราะทุกมุมที่เกาะนี้มันดีจริง ดีแบบไร้ที่ติ ทั้งธรรมชาติ บ้านเรือน ทิวทัศน์ เจ้าแกะ คือต้องเคลียร์เมมกล้องและชาตแบตให้พร้อม มาไม่งั้นอดได้รูปสวยๆแน่เลยค่ะ

มีของแถมต่อท้ายนิดหน่อย

ข้อควรรู้เล็กๆน้อยๆในเกาะแฟโร

1. ถ้ามีหมอกบนเขา หรือถ้ามองอะไรไม่เห็น ให้นั่งลงและรอจนกว่าหมอกจะหายไป มันอันตรายมาก เราอาจจะตกจากหน้าผาได้
2. ระวังการยืนใกล้ๆหน้าผา คือถ้าเป็นไปได้อย่ายืนใกล้ เพราะมีนักท่องเที่ยวหลายรายเสียชิวิตจากเรื่องนี้
3. พยายามอย่าถ่ายภาพบ้านหรือ ส่องบ้านชาวแฟโร นอกสะจากรับการอนุญาตจากเจ้าของบ้านก่อน หรืออย่าเดินเล่นเข้าไปในพื้นที่ของคนอื่น เช่น ออกนอกเส้น เพราะบางพื้นที่มีเจ้าของ
4. เห็นน้องแกะน่ารักน่าชังแบบนี้ อย่าได้คิดจะวิ่งไล่ตามแกะเด็ดขาด เพราะถ้าหากน้องโกรธและหันมาทำร้ายเราทันที
5. ถ้าเห็นป้ายเตือน อันนี้สำคัญมาก เช่น Don"t walk หรือ Under Constrution อย่าฝ่าฝืนเด็ดขาด
6. ในการขึ้นเขา พยายามอย่าเอาอะไรขึ้นไปเยอ ะ เพราะจะทำให้เดินทางลำบาก

ใครที่เดินทางคนเดียวแล้วกลัวจะเหงา อยากมีเพื่อนร่วมไปเที่ยวไอซ์แลนด์ + เกาะแฟโร เดินทางไปกับเราได้นะ ติดต่อได้ที่
Add Line : @ newgenstravel (มี@ข้างหน้า)

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้