11006 จำนวนผู้เข้าชม |
ว่าด้วยข่าวเม้ามอยว่าปากีสถานเป็นประเทศน่าหวาดกลัว อันตราย ไม่น่าไปเที่ยวสักเท่าไหร่
อยากให้ลองเปิดใจสักครั้ง จะรู้ว่าปากีสถานมีดีกว่าที่คิด
ธรรมชาติที่ต้องยกนิ้วให้ บอกเลยว่าสวยงาม แปลกตาสุดๆ
ยิ่งไปกว่านั้นชาวพื้นเมืองเห็นหน้าโหดๆนี่โหมดคิตตี้ทั้งนั้น55555 คือน่ารักสุดๆ เฟรนด์ลี่และตอนรับเราอย่างเป็นมิตรเว่อร์
วันนี้เรามาป้ายยาให้เพื่อนๆตกหลุมรักปากีสถานไปด้วยกัน
โดยเราตัดสินใจพาแบกเป้เที่ยวปากีสถานกันทั้งหมด 7 วัน 6 คืนกันเลยทีเดียว
มาดูกันว่าปากีสถานไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ประเทศที่โครตสวยธรรมชาติคือดีงามแถมราคาก็โครตถูก
แพลนของเรา ไปไหนบ้าง?!
Day 1 : BKK - Islamabad
Day 2 : Islamabad - Chilas
Day 3 : Chilas - Fairy Meadow
Day 4 : Hunza Valley - Atlit Fort - Attabad Lake
Day 5 : Hussaini Hanging Bridge - Borith Lake - Passu
Day 6 : Passu - Ghulmet - Islamabad
Day 7 : Islamabad - BKK
รายละเอียดการเดินทางจะอยู่ด้านล่างนะคะ
รับรองเลยว่าถ้าอ่านจนจบ ต้องเตรียมสะพายเป้ไปปากีสถานให้ได้สักครั้ง!!
รู้!!! ก่อนไปปากีสถาน
Day 1 : Bkk - Islamabad
เริ่มต้นเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อ Go to Pakistan กัน
โดยลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติ Benazir Bhutto กรุงอิสลามมาบัด ใช้เวลาประมาณ 5.30 ชั่วโมง จากนั่นกลับเข้าพักที่โรงแรมในกรุงอิสลามมาบัดก่อน นอนพักตุนแรงให้พร้อม เส้นทางวันพรุ่งนี้ยาวไกลมาก
Day 2 : Islamabad - Chilas
เช้าวันที่สองเราต้องตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ เพื่อเดินทางไปที่เมืองชีลาส วันนี้ต้องเดินทางยาวนานและแสนไกลจากกรุงอิสลามมาบัด ใช้เวลาเดินทาง 8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เราแนะนำให้ออกตั้งแต่ตีสี่เลย
เมืองซีลาสเป็นจุดเริ่มต้นแรกที่เราจะเดินทางไปปากีสถานตอนเหนือ เมืองนี้ตั้งอยู่ตีนเขานังการาบัด ส่วนใหญ่อากาศจะแห้งแล้ง ถ้าช่วงซัมเมอร์จะร้อนได้ถึง 40 องศาเลยทีเดียว แบบว่าอากาศเหมือนบ้านเราเลย ต้องบอกเลยว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยภาพวาดบนหิน และผนังหินมากมาย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนาที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนศาสนาอิสลามวาดโดยนักแสวงบุญ ถ้าสังเกตดีๆที่นี่มีรูปวาดมากกว่า 20,000 ภาพเลยทีเดียว
เมื่อเดินทาง สามารถเที่ยวชมบรรยากาศรอบเมือง โดยเราจะเลือกพักที่นี่ 1 คืนก่อนเดินทางต่อค่ะ
Day 3 : Chilas - Hunza Valley - Fairy Meadow
เช้าวันนี้ เราจะออกเดินทางต่อไปที่หมู่บ้าน Hunza กัน
ระหว่างทางจะมีจุดแวะเที่ยว อยู่บ้างอย่าง จุดชมวิวราคาโปชิ (Rakaposhi View Point) ต้องบอกเลยว่าเป็นจุดชมวิวที่นี่พรีเมียมจริงอะไรจริง เพราะเป็นจุดที่ 3 เทือกเขาและสองแม่น้ำไหลมาบรรจบพบกันโดยคำว่า Rakaposhi แปลว่า หิมะปกคลุม โดยภาษาท่องถิ่นจะเรียกว่า Dumani ซึ่งแปลว่า Mother of Mist หรือ Mother of Cloud) มีความสูงเป็นอันดับที่ 27 ของโลกอีกด้วย
![]() | มาต่อที่สะพาน Raikot เพื่อเดินทางสู่ Fairy Meadow ใช้เดินทางประมาณ 50 นาที |
กรี๊ดดดดดดด!!! Fairy Meadow สวยมากกกกก
ธรรมชาติแบบว่าเลิศ อากาศบริสุทธิ์ ผู้คนก็น่ารัก ในภาษาเยอรมันเรียกที่แห่งนี้ว่า "Marchenwiese "ทุ่งหญ้าเทพนิยาย" หมู่บ้านเล็กๆบนยอดเขาที่ทำให้เราสามารถเห็นยอดเขา Nanga Parbat ได้ อยู่สูงเหนือจากระดับน้ำทะเล ถึง 3,000 เมตร รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ คือดีมากๆๆ มีทั้งทุ่งหญ้าเขียวขจี หุบเขาที่มีหิมะปกคลุม เรามั่นใจเลยว่าถ้าใครมาที่ นี่ต้องติดใจกันถ้วนหน้าแน่
![]() | ![]() |
Fairy Meadow สามารถพักได้ทั้งรีสอร์ทและกางเต้นท์ เลือกตามที่สะดวกได้เลย
Day 4 : Ganish Valley - Nagar Valley - Attabad Lake
วันนี้ต้องเดินทางอีกแล้วว ต้องตื่นเช้าหน่อยนะเพราะเราจะดูพระอาทิตย์ขึ้นที่หุบเขาฮุนซ่ากัน
หุบเขาฮุนซ่าวิวดีมากเหมาะกับการดูพระอาทิตย์ขึ้น จิบกาแฟร้อนๆ มองวิวเพลินๆ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ในช่วงเช้าเราจะเดินชมบรรยากาศและเก็บรูปภาพรอบๆหุบเขาฮุนซ่ากัน >.<
หุบเขาฮุนซ่าตั้งอยู่เหนือสุดของปากีสถาน มีความสูงถึง 2,438 เมตรเลยนะ และยังเป็นเมืองโบราณลับๆที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขา อากาศบริสุทธิ์เว่อร์ เสน่ห์ของเมืองนี้มีเต็มไปหมด ไม่รู้จะเริ่มอธิบายยังไง ทั้งหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้า ดอกหญ้า หรือต้นป๊อปลาร์ที่มีลำต้นตรงอันสง่างาม ทุ่งหญ้าเขียวขจี และมีด้านบนเป็นหิมะอีก ถ้ายิ่งมาช่วง Blossom ประมาณเดือนมีนา - พฤษภาคม จะเห็นดอกไม้สีชมพูบานเต็มทุ่ง คือฟินกว่าเดิมอีกค่า
![]() | ![]() |
![]() | เดินทางต่อที่ Altit Fort ป้อมปราการอันงดงาม เมื่อมองออกมาจะเห็นวิวที่สวยงามมากๆ |
พักทานข้าวกันก่อน เดินทางต่อที่ธารน้ำแข็งฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) เรียกได้ว่าที่นี่เป็นอีกจุดชมวิวที่สวยมากๆ รายล้อมไปด้วยหุบเขาสูง ความพิเศษของที่นี่คือธารน้ำแข็งที่อื่นจะเป็นสีขาวกันใช่ไหมละ?! แต่ธารน้ำแข็งฮอปเปอร์จะเป็นสีเทาด้วยความที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมาย หากใครชอบหินเทอร์ควอยส์ หินลาพิส และหินอื่นๆ มีร้านขายด้วยในละแวกรอบๆ ถ้าจะถือว่าเป็นของฝากประจำปากีสถานเลยก็ว่าได้
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!! ทะเลสาบ Attabad สวยมาก บอกไว้ก่อนเลยว่าสถานที่แรกๆ ที่เราลิตส์ไว้ว่าต้องมาให้ได้ ทะเลสาบ Attabad เป็นทะเลสาบสีเทอร์ครอยส์อันแสนมีสเน่ห์ มีต้นกำเนิดมาจากช่วงแผ่นดินไหวในปากีสถานเมื่อปี 2010 ทะเลสาบที่เป็นสีฟ้าตัดกับฉากหลังที่เป็นหุบเขาที่มีหิมะปกคลุมนิดหน่อย
วิวมองเพลินมากๆ สำหรับคืนนี้สามารถพักได้ที่โรงแรมริมทะเลสาบหรือพักในหมู่บ้านพาสสุก็ได้
Luxus Hunza เป็นโรงแรมแห่งเดียวที่มีวิวติดทะเลสาบ คือวิวดีมากจริงๆ แต่เราลองถามคนท้องถิ่นดูแล้วเค้าไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ เพราะค่อนข้างอันตราย เค้าแนะนำให้เราไปพักที่ PTL Hotel เอาจะดีกว่าค่า
Day 5 : Borith Lake - Passu
นอนชมวิวทั้งคืน วันนี้ตื่นสายได้นิดหน่อย กินข้าวเติมพลังให้พร้อมเที่ยวกันต่อ ช่วงเช้าเรายังพอมีเวลานั่ง กินลมชมวิวที่ทะเลสาบ Attabad ได้อยู่บ้าง
หลังจากพร้อมออกเดินทางต่อ เราก็ลุยต่อที่ Hussaini Hanging Bridge เป็นสะพานที่อันตรายที่สุดในโลก ดูหวาดเสียวสุดๆ ทำเอาขาสั่นเลยทีเดียว แต่ต้องยอมใจชาวบ้าน เค้าดูเดินสบายกันมากๆ โดยสะพานนี้มีฉากหลังเป็นเขา Passu ธรรมชาติมีความหลากหลายมาก มีทั้งทะเลสาบที่มีลวดลายแปลกตาบวกกับภูเขาที่สลับทับซ้อนกันดูแปลกตาสุดๆ
ลุยต่อที่ทะเลสาบ Borith มีหมู่บ้านเล็กๆบริเวณทะเลสาบอีกด้วย ดูน่ารักมากๆๆ ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับน้ำที่ละลายมาจากธารน้ำแข็ง Ghulkin ด้วยนะ
![]() | พักกินข้าวกลางวันกันก่อน เดินทางต่อที่หมู่บ้านพาสสุ (Pasu Village) หมู่บ้านที่เงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติสุดอัศจรรย์ คนในหมู่บ้านนี้อายุยืนมากๆ โดยประมาณก็ 100 - 120 ปีกันเชียว ด้วยความที่อากาศที่ดีเว่อร์ อาหารการกินก็สะอาดมาก ทำให้คนส่วนใหญ่อายุยืนมาก พักที่เมือง Passu |
Day 6 : Passu - Ghulmet - Islamabad
เช้าวันนี้เราต้องเดินทางยาวไกล ต้องกินข้าวเตรียมพลังไว้ให้เยอะที่สุดก่อนเดินทางกลับไปที่กรุงอิสลามมาบัด
ถ้าอยากย่นเวลาเดินทางแนะนำในนั่งเครื่องบินจาก Gilgit ลงที่ กรุงอิสลามมาบัด ใช้เวลาเดินทางแค่ 1 ชั่วโมง โดยเครื่องบินจะบินจาก Gilgit - Islamabad แค่วันละสองรอบเท่านั้น ค่าเครื่องประมาณ 5,000 บาท แต่ถ้าอยากนั่งชิว เลือกนั่งรถได้เลย แต่เมื่อยก้นแน่ๆ เพราะใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบวันเต็มค่ะ ระหว่างทางก็สามารถแวะเที่ยวได้หลายที่เลยอย่าง
เมือง Gulmit เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุหลายสิบปี มีธรรมชาติดีมากๆ มีทั้งภูเขาและธารน้ำแข็ง สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เยอะมาก
หรือ 3 เทือกเขาแห่งปากีสถาน Karakoram, Hamaliya และ Hindukush หรือชมแม่น้ำสินธุหรือกิลกิตก็แล้วแต่ เลือกเอาที่สะดวกได้เลย
![]() | หรืออาจแวะชมยอดเขา Nanga Parbat (นังกาปาร์นัต) ก็ได้ ยอดเขานี้เรียกได้ว่าสูงเป็นอันดับที่ 9 ของโลก มีความสูงตั้ง 8,126 เมคร (สูงมากกกกกกกก) โดย Nanga Parbat แปลว่า “ยอดเขาเปลือย หรือ ยอดเขาสีเลือด” ฟังแค่ชื่อก็ขนลุกแล้ว สาเหตุที่เขาแห่งนี้มีชื่อนี้เพราะว่าเป็นเขาที่มีนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปพิชิต เขาเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะมีความเรื่องเล่าน่ ากลัวมากมายแต่เชื่อเถอะวิว มองเพลินมาก คืนนี้เข้าพักที่กรุงอิสลามมาบัด |
Day 7 : Islamabad - Bkk
วันสุดท้ายแล้วววว วันนี้ไปเที่ยวเมืองหลวงที่ กรุงอิสลามมาบัดกัน
หลังจากกินข้าวเสร็จ เราไปแวะซื้อของฝากกันที่ตลาด Himalaya Herbals ใจกลางกรุงอิสลามมาบัด
เดินทางต่อที่ Faisal Mosque มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในปากีสถานและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากๆ เป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัยและได้รับอิทธิพลของสถาปัตยกรรมอิสลาม
Bye bye Pakistan TT”
ต้องบอกเลยว่าปากีสถาน ถ้ามาเห็นกับตาถึงจะรู็ว่าดีจริงๆ
เราขอโทษแกนะ ที่เคยคิดว่าแกน่ากลัว ไม่น่ามาเที่ยวเลยย สำนึกผิดไม่ทันเลยจริงๆ
เราอยากบอกทุกคนว่าประเทศปากีสถานดีจริงๆ ธรรมชาติและผู้คนนั้นดีเหลือเกิน ลองเปิดใจมาดูสักครั้งแล้วจะตกหลุมรักประเทศนี้เหมือนเรา ...
หากเพื่อนๆอยากมีเพื่อนเที่ยวปากีสถาน
ไปเที่ยวกับเราได้