หมู่บ้านเทพนิยายแห่งแคว้นอาลซัส (Alsace) ประเทศฝรั่งเศส

แคว้นอาลซัส (Alsace) ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนทางทิศตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส และทางทิศตะวันตกของแม่น้ำไรน์ มีเมืองหลักและเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือเมืองสตราสบูร์ก เดิมเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แคว้นอาลซัสมีหมู่บ้านเทพนิยายหลายแห่ง จึงทำให้แคว้นเป็นที่รู้จักอย่างดีของเหล่านักท่องเที่ยว หมู่บ้านเทพนิยายที่หากได้ไปเที่ยวชมแล้วต้องตกหลุมรัก ด้วยความที่แต่ละหมู่บ้านมีบ้านเรือนแบบน่ารักๆ มีเสน่ห์ สุดโรแมนติค ทำให้แต่ละปีสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก

พร้อมจะไปทำความรู้จักกับ 4 หมู่บ้านที่นักท่องเที่ยวนิยมที่สุด ที่เราเลือกมาให้เพื่อนๆเก็บลิสต์ไว้เที่ยวกันหรือยังคะ??

  เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg)

เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alsace) ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอีล ใกล้พรหมแดนประเทศเยอรมนี เป็นเมืองในแคว้นกร็องแต็สต์ ประเทศฝรั่งเศส เมืองนี้มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยโบราณ แถมยังเป็นเมืองที่เหล่านักท่องเที่ยวนิยมมาแวะพัก เพื่อท่องเที่ยวหมู่บ้านในแถบใกล้เคียง หากใครที่ชอบท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทางมรดก วัฒนธรรม และศิลปะแล้ว รับรองว่า เมืองนี้จะเป็นเมืองที่คุณต้องหลงรักอย่างแน่นอน 

การได้ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ในแม่น้ำอิลของเมืองนี้ นับว่าเป็นอีกไฮไลท์สำคัญที่นักท่องเที่ยวสวยใหญ่ต้องห้ามพลาด เรือมีให้บริการหลายเจ้า แต่ถ้าให้แนะนำเรือของ Batorama เป็นหนึ่งในบริษัทเรือนำเที่ยวที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งบริษัทนี้มีท่าเรือตั้งอยู่ในเขตที่ได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1988 ด้วย

การล่องเรือส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ที่ 45-70 นาที เรือจะพาท่านแล่นไปบนผิวน้ำสายสำคัญ และผ่านชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองหลายๆแห่ง 

อาคารบ้านเรือนมีการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมยุคกลาง และยุคสมัยใหม่อย่างลงตัว บ้านเรือนมีสีสันสดใส ตั้งเรียงรายริมฝั่งคลอง ซึ่งมองดูแล้วมีความโรแมนติคอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณ The Ponts Couverts หอคอยสี่หลังที่สร้างขึ้นตั้งแตjศตวรรษที่ 14 เป็นหอคอยที่มีสะพานสามแห่งข้ามช่องแม่น้ำทั้งสี่ของแม่น้ำอิล

นอกจากนี้คริสมาสต์ที่เมืองสตราสบูร์ก เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่มีชื่อเสียงป็นอย่างมาก เพราะที่นี่มีตลาดคริสมาสต์ที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1570 จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงของคริสต์มาศ "Christmas Capital” ภายในตลาดจะถูกประดับประดาด้วยดวงไฟหลากสีสัน มีขนมพื้นเมืองให้ได้เลือกซื้อเลือกชิมมากมาย

สตราสบูร์ก เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการมาพักค้างคืน เพื่อที่จะท่องเที่ยวหมู่บ้านเล็กๆแถบใกล้เคียง เพราะที่เมืองนี้มีโรงแรมที่พักรวมถึงร้านอาหารให้บริการมากมาย ซึ่งหากต้องการมาทัวร์ตามเส้นทางเพื่อชิมไวน์ชั้นดี การพักที่เมืองนี้ถือเป้นทางเลือกที่ดี สำหรับคนที่ชอบแสงสียามค่ำคืนค่ะ

  หมู่บ้านกอลมาร์ (Colmar)

หมู่บ้านกอลมาร์ (Colmar) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งไวน์ของแคว้นอาลซัส" (Capitale des Vins d'Alsace) มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้ยังคงเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมสไตล์เรอเนซองส์ จนได้รับฉายาว่า “เวนิสน้อย” (Little Venice) แถมปี 2020 นี้ ยังได้รับรางวัล Winner European best destination 2020 ด้วย

อาคารครึ่งไม้เรียงรายไปตามสองฝั่งคลอง แต่ละหลังมีสีสันสดใส ตามตรอกซอยของเมืองจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย การได้ล่องเรือเล็กๆไปตามลำคลอง จะทำให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศของเมืองนี้ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนมีนาคมจะมี Cerisiers Blossom / Plum Cerisiers ซึ่งแอดมินเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นสายพันธุ์ไหน หรือเอาง่ายๆที่เรามักจะเรียกกันว่า "ซากุระ" ตามแบบญี่ปุ่น ให้ได้ชมกันด้วยนะคะ

สำหรับเทศกาลคริสต์มาสของหมู่บ้านกอลมาร์ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีความเก่าแก่เท่ากับเมืองสตราสบูร์ก แต่ก็มีความโรแมนติคไม่แพ้กัน เพราะภายในเมืองจะถูกประดับประดาไปด้วยไฟระยิบระยับเต็มทั่วท้องถนน ภายในงานจะมีตลาดคริสต์มาส ให้ได้เลือกซื้อขนมพื้นเมืองที่มีเฉพาะเทศกาลชิมกันด้วย

ด้วยความที่เมืองนี้มีความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดิน จึงทำให้เหมาะแก่การเพราะปลุกองุ่น และผลผลิตจากองุ่นก็มีรสชาดดี จนทำให้ได้รับการขนานามว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งไวน์ของแคว้นอาลซัส" การได้นั่งจิบไวน์ชั้นเยี่ยม เสพบรรยากาศชิลล์์ๆ ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ต้องห้ามพลาด

นอกจากแถบย่านเวนิสน้อย (Little Venice) ที่สวยงามแล้ว หมู่บ้านหมู่บ้านกอลมาร์ยังมีสิ่งที่น่าสนใจที่รอให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกไปสัมผัสอยู่ อย่างเช่น

Koifhus เป็นอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ต้นแบบของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม มีความโดดเด่นด้วยหลังคากระเบื้องมีสีเหลือง สีส้ม และสีเขียว 

La Maison Pfister ตั้งอยู่ที่ถนน 11 rue des Marchands เป็นบ้านที่มีชื่อเสียงที่สุดในกอลมาร์ สร้างขึ้นตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 15 ซึ่งปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้เป็นอนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์ี่สำคัญของเมือง

จตุรัสกลางเมือง Place de la Cathedrale หรือ จตุรัสที่ 16 และ ถนนสายช้อปปิ้ง Rue des Clefs เป็นที่รวมของร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งมากมายให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อยใจกันค่ะ

Koifhus	La Maison Pfister	จตุรัสกลางเมือง

  หมู่บ้านริคเวียร์ (Riquewihr)

หมู่บ้านริคเวียร์ (Riquewihr) อยู่ใกล้กับเมืองกอลมาร์ (Colmar) ประเทศฝรั่งเศส ที่นี่เป็นหมู่บ้านในหุบเขาที่ถูกโอบล้อมไปด้วยไร่องุ่น มีชื่อเสียงในเรื่องของไวน์ และถือเป็นแหล่งผลิตไวน์ มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศ แถมยังได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Villages de France หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกอีกด้วย

บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเราได้เดินหลุดเข้าไปในเมืองแห่งเทพนิยาย มีถนนสายหลักเพียงสายเดียว คือ Rue Du Général-de-Gaulle สองข้างทางจะอาคารบ้านเรือนมีสีสันสดใส ลักษณะแบบครึ่งตึกครึ่งไม้ (Half Timbered) และเกือบทุกหลังจะตกแต่งประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆค่ะ ทางเดินถูกปูด้วยหินสวยงาม รับรองเลยว่าทุกจุดน่าแวะถ่ายรูปไปหมดเลยค่ะ

ริคเวียร์มีชื่อเสียงเรื่องการปลุกองุ่นทำไวน์เช่นเดียวกับเมืองกอลมาร์ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของถนนแห่งไวน์ (Wine Road) มีไร่องุ่นและร้านขายไวน์มากมาย ยิ่งช่วงใกล้ฤดูเก็บเกี่ยว เป็นช่วงที่สวยงาม และน่าเที่ยวที่สุดค่ะ เพราะใบองุ่นจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ตัดกับสีของลูกองุ่น มองดูแล้วสวยงามมากๆค่ะ 

จุดเด่นของเมืองนี้คือ หอคอยโบราณ (Dolder Tour) ที่มีนาฬิกาอยู่ด้านบนหอคอย ตั้งอยู่ใจกลางของหมู่บ้านริคเวียร์ ถือเป็นแลนด์มารืคสำคัญของเมือง

ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะเป็นเมืองเล็กๆในยุคกลาง แต่ก็เป้นเมืองที่แสนโรแมนติค เพราะตัวเมืองซ่อนตัวอยู่ระหว่างภูเขา Vosges และไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดใน Alsace

  หมู่บ้านเอกวีชีล์ม (Eguisheim)

หมู่บ้านเอกวีชีล์ม (Eguisheim) เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่มีความสวยงามดุจเทพนิยาย เป็นสมาชิกของ Les Plus Beaux Villages de France “หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส” และในปี 2013 ได้รับการโหวตว่า“ หมู่บ้าน Préféré des Francais” (หมู่บ้านฝรั่งเศสที่ชื่นชอบ) ด้วย 

เอกลักษณ์ของเมืองอกจากบ้านเรือนน่ารักๆแล้ว ผังเมืองของเมืองนี้ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ดังจะเห็นได้จากภาพแรก ที่มีการสร้างบ้านเรือนล้อมกันเป็นวงรีค่ะ 

ระหว่างการเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านนี้ ในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน เราจะได้เห็น Cerisiers Blossom หรือ Plum Cerisiers ซึ่งแอดมินก็ไม่แน่ใจอีกเหมือนกัน 555 แต่รับรองว่าสวยงาม น่าประทับใจมากๆค่ะ 

หมู่บ้านนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองในเทพนิยาย เพราะมีนิทานเกี่ยวกับนกกระสา ซึ่งจะเห็นได้จากข้าวของเครื่องใช้ หรือของที่ระลึกที่มีรูปนกกระสา และเราจะเห็นรังของมันตามหลังคาตึกหรือบ้านเรือนต่างๆมากมาย แถมที่นี่ยังมีฟาร์มนกกระสา ให้ได้ชมอีกด้วยนะคะ 

ไร่องุ่นสำหรับแคว้นนี้ รวมถึงหมู่บ้านเอกวีชีล์มนี้ ก็ยังคงเป็นสิ่งที่โดดเด่นที่สุดอีกเช่นเคย เพราะเป็นเมืองที่อยู่บนเส้นทางแห่งไวน์เช่นเดียวกัน แต่ไร่องุ่นของเมืองนี้จะมีเอกลักษณ์เพราะมีป้อมปราการโบราณ (The Three Castles of Eguisheim) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเป็นฉากหลัง

นอกจากนี้ความสวยงามน่ารักๆของเมืองนี้แล้ว ยังมี จตุรัสกลางเมือง และ ร้านอาหาร Freudenreich Joseph et Fils ที่มีตัวบ้านสีเหลืองมัสตาร์ดสดใส ยังเป็นอีกแลนด์มาร์ตสำคัญที่ต้องห้ามพลาดแวะไปเก็บภาพกันนะคะ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงหมู่บ้านเอกวีชีล์ม ไม่รู้ด้วยนะคะ